
.
ในช่วงงาน CEDEC ในญี่ปุ่น ทาง Automaton มีโอกาสสัมภาษณ์ คุณ Guillaume Broche ผู้กำกับ และ คุณ Tom Gullermin หัวหน้าฝ่ายโปรแกรมเมอร์ของ Clair Obscur: Expedition 33 เกม RPG แบบ Turn-based กึ่งเรียลไทม์ ในโลกแฟนตาซีที่ได้แรงบันดาลใจมาจากฝรั่งเศสในยุค Belle Époque ในหลายๆ ประเด็น ตั้งแต่แผนในอนาคตของทางสตูดิโอ และมุมมองที่มีต่อนักพัฒนาเกมระดับ AA อื่นๆ
.
และเมื่อถามว่า พวกเขารู้สึกอย่างไรกับการสร้างเกมแนว RPG แบบ Turn-based มาในขณะที่เกมแอ็กชันเป็นแนวที่กำลังครองตลาด โดยคุณ Broche ยอมรับว่า แม้ว่าหลายๆ เกมในทั้ง 2 แนวนี้ จะทำยอดขายได้ดี แต่เขาก็ยังรู้สึกว่า “อคติที่มีต่อเกมแนว JRPG แบบ Turn-based ก็ยังคงมีอยู่ดี”
.
“ผมพูดเรื่องอคตินี่ได้ทั้งวันเลย 555 ส่วนตัวนะ ผมคิดว่า เกม RPG แบบ Turn-based สไตล์ญี่ปุ่น มันโด่งดังมากจนถึงช่วงยุค Xbox 360 แต่ตอนนั้นเกมแนว Open World ก็เริ่มที่จะได้รับความนิยมมากขึ้นผ่านสื่อเกมต่างๆ ส่วนเกม [JRPG] ก็เริ่มที่จะมองว่ามัน ‘เชย’ ไปแล้ว 555”
คุณ Broche กล่าว
.
ซึ่งเขากล่าวอีกว่า เกมซีรีส์ Persona ถือว่าเป็นตัวอย่างของเกมแนวนี้ ที่ยังคงประสบความสำเร็จ แต่เขาก็เชื่อด้วยว่า เกมแนว JRPG ยังคงต้องใช้เวลาอีกยาวไกล กว่าจะกลับมาได้รับความนิยมเหมือนในอดีต
.
“ถึงจะมีเกมที่ยังคงทำยอดขายได้เป็นจำนวนมาก เช่น ซีรีส์ Persona เป็นตัวอย่างที่ชัดเจน แต่ผมก็รู้สึกว่า อคติที่มีต่อเกมแนว Turn-based ก็ยังคงไม่หมดไปซะทีเดียว”
เขากล่าว
.
แม้จะมีความกังวลอยู่บ้าง แต่คุณ Broche ย้ำว่า องค์ประกอบที่แหวกแนวจากรูปแบบเกม RPG ดั้งเดิม (เช่นการหลบหลีก หรือปัดป้องแบบเรียลไทม์) ใน Clair Obscur: Expedition 33 ไม่ได้ใส่เข้ามา เพื่อทำให้มันกลายเป็นเกม JRPG แบบ Turn-based ที่ “ทันสมัย” แต่อย่างใด
.
“ไม่ใช่ว่าเราสร้างระบบปัดป้องการโจมตี หรือประสบการณ์การเล่าเรื่องแบบนี้ขึ้นมา เพราะอยากจะเลี่ยงไม่ให้เกมของเราต้องไปเจออคติแบบนั้น แต่แค่ทำ เพราะเราอยากทำ”
คุณ Broche กล่าว
.
ซึ่งคุณ Broche เผยว่า มีไอเดียเกี่ยวกับ ระบบปัดป้องการโจมตี ตั้งแต่เริ่มต้นพัฒนา Expedition 33 แล้ว แต่ความพยายามลองใส่ระบบนี้ในช่วงแรกๆ กลับไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ในช่วงที่กำลังรู้สึกติดขัด ตอนนั้น คุณ Broche ก็ไปหาแรงบันดาลใจจาก Sekiro: Shadows Die Twice ซึ่งเขากำลังเล่นอยู่ในขณะนั้น
.
“นั่นแหละ คือจุดเริ่มต้นของระบบปัดป้องการโจมตีที่ทุกคนเห็นกันในตอนนี้”
เขาอธิบาย
.
แน่นอนว่าแรงบันดาลใจเบื้องหลัง Expedition 33 ก็มาจากเกมแนว JRPG มากมายที่ คุณ Broche เล่นมาตั้งแต่สมัยเด็ก จากบทสัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ เขาเคยกล่าวถึง Final Fantasy VI – X, Shadow Hearts, Suikoden, ซีรีส์ Atelier และ Lost Odyssey ว่า เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนของเกมที่มีอิทธิพลต่อการทำเกมของเขา แต่เกมที่เป็นแรงบันดาลใจมากที่สุดในการออกแบบ UI และการใช้กล้องในเกม ก็คือ Persona 5
.
แต่แทนที่จะก๊อปมาแบบผิวเผิน เขากลับพยายามต่อยอดจากแรงบันดาลใจเหล่านั้น และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ซึ่งนั่น อาจเป็น 1 ในเหตุผลที่ทำให้ Clair Obscur: Expedition 33 ประสบความสำเร็จ ไปพร้อมกับรักษาแก่นแท้ของ JRPG แบบ Turn-based ไว้อย่างชัดเจน
.
Clair Obscur: Expedition 33 วางจำหน่ายแล้วบน PS5, XBSX|S และ PC รวมถึงเปิดให้เล่นบน Game Pass
.
ติดตามเพจใหม่เพื่อรับข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่นี่ เกมถูกบอกด้วย v.3
—————————————-
แนะนำ BullVPN – บริการ VPN ที่ช่วยให้คุณมุดเว็บ ข้ามโซน ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมได้ทุกที่อย่างอิสระและปลอดภัย
✨ พิเศษ! ใช้โค้ด sheapgamer รับส่วนลดรายปีสูงสุด 425 บาท 🚀