[News] ผู้สร้างโฆษณา Coke ที่โดนดราม่า ปกป้อง AI ว่า กระบวนการสร้างก็ “ไม่แตกต่างจากการทำหนังแบบเดิม”
.
เมื่อไม่นานมานี้ Coca-Cola หนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ธุรกิจน้ำดำของโลก โดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังจากออกวิดีโอโฆษณารับช่วงเทศกาลคริสต์มาส ที่สร้างด้วยการ “ใช้ AI ล้วนๆ” จนกลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ และจุดกระแสต่อต้านจากนักวาด นักทำแอนิเมชัน และนักเขียน ทั้งคุณ Alex Hirsch นักเขียนจาก Gravity Falls, คุณ Reid Southen นักออกแบบภาพคอนเซปต์อาร์ต, และคุณ Karla Ortiz นักวาดภาพประกอบ ที่ออกมาเรียกร้องให้คว่ำบาตรการกระทำแบบนี้
.
ล่าสุดผู้สร้างวิดีโอโฆษณาดังกล่าว ออกมาตอบโต้กระแสวิพากษ์วิจารณ์ พร้อมแย้งว่า กระบวนการสร้างสรรค์วิดีโอ แม้ว่าจะใช้ AI แต่ก็ยังต้องพึ่งพาศิลปินที่เป็นมนุษย์และเทคนิคการสร้างแอนิเมชันแบบดั้งเดิมอยู่ดี
.
โดยคุณ Jason Zada ผู้ก่อตั้ง Secret Level สตูดิโอ AI เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง “Holidays are coming” โฆษณา Coca-Cola ที่เป็นกระแสดราม่า ซึ่งใช้ AI มาช่วยสร้างแอนิเมชันที่เป็นฉากการเดินทางไปทั่วโลก และเต็มไปด้วยเหล่าสิงสาราสัตว์ต่างๆ กับซานตาครอสที่สร้างด้วย AI โดยอ้างอิงจากงานเก่าๆ ของ Coca-Cola
.
จากการพูดคุยกับ The Hollywood Reporter คุณ Zada กล่าวว่า ผู้คนกำลัง “เข้าใจผิดๆ” เกี่ยวกับการสร้างโฆษณาชิ้นนี้ โดยระบุว่า โปรเจ็กต์นี้มีทีมงานประมาณ 20 คน ซึ่งมีทั้งการออกแบบตัวละครด้วยการวาดมือและการทำแอนิเมชันด้วยมือ โดยเขากล่าวอ้างว่า ผู้ชมส่วนใหญ่ ไม่รู้ว่ามีขั้นตอนเหล่านี้อยู่ และเปรียบเทียบขั้นตอนการทำงานโฆษณาชิ้นนี้ กับการสร้างภาพยนตร์แบบดั้งเดิม โดยระบุว่า “นี่ไม่ใช่แค่การพิมพ์ไม่กี่คำแล้วกดปุ่ม” ก็ได้เป็นวิดีโอโฆษณาออกมาเลย
.
เขายังโต้แย้งแนวคิดที่ว่า AI จะเข้ามาแทนที่ศิลปินที่เป็นมนุษย์จริงๆ โดยให้เหตุผลว่า เทคโนโลยีเหล่านี้ ช่วยทำให้การผลิตเร็วขึ้น ส่งผลให้สตูดิโอและแบรนด์สามารถสร้างชิ้นงานได้หลากหลายเวอร์ชัน หรือสร้างผลงานได้ยาวขึ้นด้วยงบประมาณเท่าเดิม ซึ่ง AI ทำให้ทีมขนาดเล็กสามารถรับโปรเจ็กต์งานแอนิเมชันขนาดใหญ่ได้ ที่ตามปกติต้องใช้เวลาหลายเดือนในการทำให้เสร็จ
.
ซึ่งคุณ Zada ยอมรับว่า มีกังวลเกี่ยวกับการที่ AI จะมาแทนที่งานของมนุษย์ แต่ก็เปรียบเทียบกับการถกเถียงช่วงแรกๆ ของการสร้างเอฟเฟ็คต์แบบดิจิทัล โดยเขาเชื่อว่า กระบวนการทำงานใหม่ๆ จะช่วยขยายโอกาสด้านความคิดสร้างสรรค์ในท้ายที่สุด โดยยกตัวอย่าง Flow ภาพยนตร์อินดี้ที่คว้ารางวัลออสการ์ ว่าเป็นตัวอย่างของการที่ทีมเล็กๆ สามารถลงแข่งขันได้โดยไม่ต้องเป็นสตูดิโอใหญ่ๆ แบบดั้งเดิม
.
ในขณะที่ Coca-Cola เป็น 1 ในแบรนด์ใหญ่รายแรกๆ ที่ออกโฆษณาที่สร้างด้วย AI ในปี 2024 ซึ่งแคมเปญนั้นก็โดนวิจารณ์ยับจากนักสร้างสรรค์ผลงานว่า เป็นการเลี่ยงการใช้ทีมแอนิเมชันแบบดั้งเดิม ซึ่งคุณ Zada ระบุว่า เสียงตอบรับของผู้บริโภคปีที่แล้ว มีทั้งบวกและลบ แต่ผู้ชมส่วนใหญ่ “ไม่ได้แคร์” เรื่องวิธีการผลิตมากนัก
.
นอกจากนี้เขายังเชื่อด้วยว่า ผู้บริโภคเริ่มจะคุ้นเคยกับ AI มากขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้เทคโนโลยีนี้ ไม่ใช่เรื่องน่าตกใจสำหรับผู้คนอีกต่อไป และโฆษณาตัวใหม่ก็ได้ผลลัพธ์ที่ดี เพราะมีคนดูที่ชื่นชอบโทนที่ออกมาและฉากที่รวมสัตว์ทั่วโลกอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
.
ติดตามเพจใหม่เพื่อรับข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่นี่ เกมถูกบอกด้วย v.3
——————————-
แนะนำ BullVPN – บริการ VPN ที่ช่วยให้คุณมุดเว็บ ข้ามโซน ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมได้ทุกที่อย่างอิสระและปลอดภัย
✨ พิเศษ! ใช้โค้ด sheapgamer รับส่วนลดรายปีสูงสุด 425 บาท 🚀
.
เมื่อไม่นานมานี้ Coca-Cola หนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ธุรกิจน้ำดำของโลก โดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังจากออกวิดีโอโฆษณารับช่วงเทศกาลคริสต์มาส ที่สร้างด้วยการ “ใช้ AI ล้วนๆ” จนกลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ และจุดกระแสต่อต้านจากนักวาด นักทำแอนิเมชัน และนักเขียน ทั้งคุณ Alex Hirsch นักเขียนจาก Gravity Falls, คุณ Reid Southen นักออกแบบภาพคอนเซปต์อาร์ต, และคุณ Karla Ortiz นักวาดภาพประกอบ ที่ออกมาเรียกร้องให้คว่ำบาตรการกระทำแบบนี้
.
ล่าสุดผู้สร้างวิดีโอโฆษณาดังกล่าว ออกมาตอบโต้กระแสวิพากษ์วิจารณ์ พร้อมแย้งว่า กระบวนการสร้างสรรค์วิดีโอ แม้ว่าจะใช้ AI แต่ก็ยังต้องพึ่งพาศิลปินที่เป็นมนุษย์และเทคนิคการสร้างแอนิเมชันแบบดั้งเดิมอยู่ดี
.
โดยคุณ Jason Zada ผู้ก่อตั้ง Secret Level สตูดิโอ AI เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง “Holidays are coming” โฆษณา Coca-Cola ที่เป็นกระแสดราม่า ซึ่งใช้ AI มาช่วยสร้างแอนิเมชันที่เป็นฉากการเดินทางไปทั่วโลก และเต็มไปด้วยเหล่าสิงสาราสัตว์ต่างๆ กับซานตาครอสที่สร้างด้วย AI โดยอ้างอิงจากงานเก่าๆ ของ Coca-Cola
.
จากการพูดคุยกับ The Hollywood Reporter คุณ Zada กล่าวว่า ผู้คนกำลัง “เข้าใจผิดๆ” เกี่ยวกับการสร้างโฆษณาชิ้นนี้ โดยระบุว่า โปรเจ็กต์นี้มีทีมงานประมาณ 20 คน ซึ่งมีทั้งการออกแบบตัวละครด้วยการวาดมือและการทำแอนิเมชันด้วยมือ โดยเขากล่าวอ้างว่า ผู้ชมส่วนใหญ่ ไม่รู้ว่ามีขั้นตอนเหล่านี้อยู่ และเปรียบเทียบขั้นตอนการทำงานโฆษณาชิ้นนี้ กับการสร้างภาพยนตร์แบบดั้งเดิม โดยระบุว่า “นี่ไม่ใช่แค่การพิมพ์ไม่กี่คำแล้วกดปุ่ม” ก็ได้เป็นวิดีโอโฆษณาออกมาเลย
.
เขายังโต้แย้งแนวคิดที่ว่า AI จะเข้ามาแทนที่ศิลปินที่เป็นมนุษย์จริงๆ โดยให้เหตุผลว่า เทคโนโลยีเหล่านี้ ช่วยทำให้การผลิตเร็วขึ้น ส่งผลให้สตูดิโอและแบรนด์สามารถสร้างชิ้นงานได้หลากหลายเวอร์ชัน หรือสร้างผลงานได้ยาวขึ้นด้วยงบประมาณเท่าเดิม ซึ่ง AI ทำให้ทีมขนาดเล็กสามารถรับโปรเจ็กต์งานแอนิเมชันขนาดใหญ่ได้ ที่ตามปกติต้องใช้เวลาหลายเดือนในการทำให้เสร็จ
.
ซึ่งคุณ Zada ยอมรับว่า มีกังวลเกี่ยวกับการที่ AI จะมาแทนที่งานของมนุษย์ แต่ก็เปรียบเทียบกับการถกเถียงช่วงแรกๆ ของการสร้างเอฟเฟ็คต์แบบดิจิทัล โดยเขาเชื่อว่า กระบวนการทำงานใหม่ๆ จะช่วยขยายโอกาสด้านความคิดสร้างสรรค์ในท้ายที่สุด โดยยกตัวอย่าง Flow ภาพยนตร์อินดี้ที่คว้ารางวัลออสการ์ ว่าเป็นตัวอย่างของการที่ทีมเล็กๆ สามารถลงแข่งขันได้โดยไม่ต้องเป็นสตูดิโอใหญ่ๆ แบบดั้งเดิม
.
ในขณะที่ Coca-Cola เป็น 1 ในแบรนด์ใหญ่รายแรกๆ ที่ออกโฆษณาที่สร้างด้วย AI ในปี 2024 ซึ่งแคมเปญนั้นก็โดนวิจารณ์ยับจากนักสร้างสรรค์ผลงานว่า เป็นการเลี่ยงการใช้ทีมแอนิเมชันแบบดั้งเดิม ซึ่งคุณ Zada ระบุว่า เสียงตอบรับของผู้บริโภคปีที่แล้ว มีทั้งบวกและลบ แต่ผู้ชมส่วนใหญ่ “ไม่ได้แคร์” เรื่องวิธีการผลิตมากนัก
.
นอกจากนี้เขายังเชื่อด้วยว่า ผู้บริโภคเริ่มจะคุ้นเคยกับ AI มากขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้เทคโนโลยีนี้ ไม่ใช่เรื่องน่าตกใจสำหรับผู้คนอีกต่อไป และโฆษณาตัวใหม่ก็ได้ผลลัพธ์ที่ดี เพราะมีคนดูที่ชื่นชอบโทนที่ออกมาและฉากที่รวมสัตว์ทั่วโลกอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
.
ติดตามเพจใหม่เพื่อรับข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่นี่ เกมถูกบอกด้วย v.3
——————————-
แนะนำ BullVPN – บริการ VPN ที่ช่วยให้คุณมุดเว็บ ข้ามโซน ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมได้ทุกที่อย่างอิสระและปลอดภัย
✨ พิเศษ! ใช้โค้ด sheapgamer รับส่วนลดรายปีสูงสุด 425 บาท 🚀
