.
คุณ Hideo Kojima ผู้ก่อตั้ง Kojima Productions และเป็นผู้สร้าง Death Stranding, OD และ Physint ให้สัมภาษณ์กับทาง Nikkei Xtrend เกี่ยวกับไอเดียของเกมที่เขาอยากจะทำในอนาคต
.
“ไอเดียนี้มันอาจจะหลุดโลกไปบ้าง แต่ผมคิดว่า ผมอยากทำ ‘เกมที่เล่นได้ในสภาะไร้น้ำหนัก’ และ ‘เกมที่ทำให้ AI รู้สึกเพลิดเพลิน'”
คุณ Kojima ตอบ
.
แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดถึงแบบเจาะลึกเกี่ยวกับเกมที่เล่นได้ในสภาพไร้แรงโน้มถ่วง แต่สำหรับแนวคิดเกี่ยวกับเกมที่ทำให้ AI รู้สึกเพลิดเพลิน เขาพูดถึงรายละเอียดได้น่าสนใจพอสมควร
.
“ใช่แล้ว กล่าวคือ มันเป็นเกมที่สามารถฝึกสอน AI นั่นเอง คือตอนนี้ AI ยังรู้อะไรไม่มากนัก และผมว่ามันจำเป็นต้องเรียนรู้อะไรอีกเยอะมาก เกมนี้จะเป็นเหมือนสื่อการสอนให้ AI ใช้ศึกษา ภายในอีก 5 หรือ 10 ปีข้างหน้า ผมคิดว่า AI จะเข้ามามีบทบาทในโลกที่หลากหลายมากขึ้นอย่างแน่นอน”
เขาอธิบาย
.
ดูเหมือนว่ามุมมองของคุณ Kojima ที่มีต่อ AI คือ AI ก็เหมือน Akinator (แอปอับดุลเล่นทายคำที่เคยโด่งดังเมื่อหลายปีก่อน) คือเมื่อมันออกมาแล้ว ก็ใส่มันกลับคืนเข้าขวดไม่ได้อีกต่อไป และเขารู้สึกว่า กระแสในแง่ลบของผู้คนที่มีต่อ AI ก็ไม่แตกต่างอะไรกับกระแสต่อต้านเทคโนโลยีใหม่ๆ ในอดีต
.
“ตอนสมาร์ทโฟนออกมาใหม่ๆ ก็โดนทุกคนโจมตีเหมือนกันใช่มั้ยล่ะ แต่ทุกวันนี้มีผู้คนมากมายที่ใช้ชีวิตไม่ได้เลย หากขาดสมาร์ทโฟน [ในอนาคต] AI ก็ไม่ต่างกัน สิ่งสำคัญคือ การใช้เทคโนโลยีในแนวทางที่ทำให้พวกเรามีความสุข ในขณะที่ตั้งคำถามอยู่เสมอว่า แนวทางที่มันเป็นไป ถูกต้องหรือไม่ด้วย”
คุณ Kojima กล่าว
.
“การสื่อสารอาจจะเปลี่ยนไปอย่างมาก จากการแพร่หลายของ AI ผมว่าอนาคตอาจจะมี AI พ่อบ้านของแต่ละคน แล้วมาสื่อสารกันเอง แบบนี้จะไม่เกิดความขัดแย้งระหว่างมนุษย์ หรือคนที่พูดต่อหน้าไม่เก่ง ก็ได้ AI มาช่วยเสริม เพื่อให้สนิทกับอีกฝ่ายได้ คู่รักที่พูดคนละภาษาก็บอกรักกันผ่าน AI ได้เช่นกัน AI ที่รู้จักตัวเราทุกอย่าง อาจจะบอก AI ของร้านอาหารว่า เราอยากกินอะไร แล้วก็เสิร์ฟสิ่งที่เหมาะสมมาให้ แบบนี้ก็จะสะดวกขึ้นแน่นอน
.
แต่ผมก็มีคิดเหมือนกันว่า แบบนี้มันดีจริงรึเปล่า ผมรู้สึกว่า มนุษย์อาจจะอ่อนแอลง ดังนั้น เราคงต้องคิดหาวิธีลดการพึ่งพา AI หรือกำหนด ‘วันที่ไม่ใช้ AI’ ขึ้นมาบ้าง
.
คือต่อให้บอกว่า ‘เราไม่ควรใช้ AI’ หรือ ‘AI เป็นสิ่งไม่ดี’ ก็ไม่มีประโยชน์แล้ว เพราะเรากลับไป [ยุคที่ไม่มี AI] ไม่ได้แล้ว เหมือนสมาร์ทโฟนนั่นแหละ ในต่างประเทศมีการพูดถึงการจำกัดการใช้โซเชียลมีเดียสำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปี แต่การควบคุมการใช้สมาร์ทโฟนทั้งหมด มันเป็นไปไม่ได้แล้ว ดังนั้น สิ่งที่ทำได้คือ ศึกษาว่า อะไรส่งผลเสียอย่างไร แล้วรับมือกับมัน AI ก็เช่นกัน แต่การบอกว่า ‘ทิ้งมันไปให้หมด’ มันทำไม่ได้อีกแล้ว”
เขาอธิบาย
.
นอกจากนี้ คุณ Kojima ยังเปิดเผยถึงบทบาทของ AI ที่จะมีผลต่อการสร้างสรรค์ผลงานของเขาในอนาคตด้วย
.
“ผมคิดว่างานง่ายๆ หรืองานที่ไม่จำเป็นต้องใช้คน ก็ควรให้ AI ทำแทน จะได้สะดวกขึ้น เหมือนการปฏิวัติอุตสาหกรรมเลย ในวงการบันเทิงมีเสียงวิจารณ์ว่า ห้ามใช้ AI อยู่เยอะ ทำให้นักสร้างสรรค์ผลงานหลายๆ คน ไม่อยากพูดเรื่องนี้กันตรงๆ แต่ถ้าพูดกันแบบนั้น อีก 50 ปีข้างหน้า เราอาจจะโดนหัวเราะก็ได้ว่า ‘โห สมัยนั้นเขาพูดกันจริงจังขนาดนั้นเลยเหรอ’ คือ AI ไม่ได้ผิด ทุกอย่างอยู่ที่วิธีการใช้งาน
.
และจริงๆ เราก็ทำเรื่องแบบนี้กันมาแล้วราว 20 ปี ตัวอย่างที่ชัดเจนสุดคือการมาถึงของ Google ถ้าผมบอกว่า อยากได้อะไร ทุกคนก็ไปค้น Google แล้วก็ได้ข้อมูลกลับมา แบบนี้ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับ AI เลย ในนั้นมีทั้งของจริง ของปลอม ของตัดต่อ นักแสดง เสื้อผ้า ตัวละคร ฉากหลัง ทุกๆ อย่างค้นจากอินเตอร์เน็ต เพื่อหาของที่คล้ายกันหรือใช้เป็นตัวอย่างได้ ตอนนี้แค่มันเปลี่ยนเป็นโหมด AI เท่านั้นเอง แน่นอนว่า AI ก็มีข้อดี อย่างงานที่เคยใช้เวลา 10 ชั่วโมง อาจเหลือไม่กี่วินาที ขอบเขตของงานที่คนคนเดียวจะทำได้ ก็เพิ่มมากขึ้น ตอนนี้เริ่มมีนักสร้างสรรค์ผลงานที่ทำงานคนเดียวได้เทียบเท่าทั้งทีมโผล่มามากขึ้นเรื่อยๆ แล้วด้วย”
เขากล่าว
.
ติดตามเพจใหม่เพื่อรับข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่นี่ เกมถูกบอกด้วย v.3
——————————-
GGKeyStore ร้านเติมเกม Steam, PSN, Nintendo, Roblox, DMM, DLsite, เติมเกมญี่ปุ่น, ไอดีเกม, เกมแท้ราคาถูก รับของทันที











